วันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2561

วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2561

วันอังคารที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี พิธีบำเพ็ญกุศลฯ และร่วมทำบุญ...

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี พิธีบำเพ็ญกุศลฯ และร่วมทำบุญตักบาตร

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี พิธีบำเพ็ญกุศลและกิจกรรมน้อม...

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี พิธีบำเพ็ญกุศลและกิจกรรมน้อมรำลึกในวันคล้ายวันสวรรคต

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี พิธีบำเพ็ญกุศลและกิจกรรมน้อม...

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี พิธีบำเพ็ญกุศลและกิจกรรมน้อมรำลึกในวันคล้ายวันสวรรคต

วันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีเก๋งเสียหลัก ตกน้ำ เสียชีวิต ...

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีเก๋งเสียหลัก ตกน้ำ เสียชีวิต 4 ราย

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีเก๋งเสียหลัก ตกน้ำ เสียชีวิต 4 ราย
















    วันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม 2561 ได้รับแจ้ง จาก 191 จังหวัดหนองคาย ว่ามีเหตุรถเก๋งเสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทางและจมน้ำ มีผู้ติดอยู่ภายในรถจำนวน 4 ราย ได้รับการประสานจาก สภ.ท่าบ่อ ว่ามีรถเสียหลักพลิกคว่ำจมน้ำที่ บ้านท่าสำราญ ตำบลน้ำโมง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย เป็นรถเก๋งยี่ห้อ Honda (CRV) สีเทา 7กบ-2946 กทม.เจ้าหน้าที่กู้ภัยร่วมใจท่าบ่อ กู้ภัยประจักษ์ทุกจุด กู้ภัย อส จร.เวียงคุก วีอาร์กู้ภัย ร่วมสนับสนุนที่เกิดเหตุ ชุดประดาน้ำจากกู้ภัยประจักษ์ เข้าพื้นที่ เพื่อดำค้นหาศพผู้เสียชีวิต ทั้ง 4 ราย โดยมี ผู้โดยสารมาด้วยกันทั้งหมด 5 ราย และสามารถออกจากรถได้เพียง 1 ราย คือคนขับรถ ส่วนอีก 4 คน ไม่สามารถที่จะออกจากรถได้ และมีรายชื่อผู้เสียชีวิตดังนี้ นางทอง มุ่งพึ่งกลาง  65 ปี 51 หมู่ 13 บ้านท่าสำราญ เด็กชายนฤเดศ ไสแสง อายุ 3 ปี 310 บ้านท่าสำราญ นางแพร มุ่งพึ่งกลาง อายุ 53 ปี 51 หมู่ 13 บ้านท่าสำราญนางบังอร ไสแสง อายุ 26 ปี 310 หมู่ 13 บ้านท่าสำราญคนขับรอดชีวิต 1 รายนายพงษ์พันธ์ ไสแสง อายุ 28 ปี 310 หมู่ 13 บ้านท่าสำราญโดยทั้งหมดเป็นครอบครัวเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร้อยเวรออกตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยการนำของพล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ผกก สภ.ท่าบ่อ รอง ผกก.สารวัตรเวร และเจ้าหน้าทีตำรวจอีกจำนวนหนึ่ง ทหารในพื้นที่ กำนันผู้ใหญ่ แพทย์เวร รพ.ท่าบ่อ ได้ร่วมกันสนับสนุน ทีมงานกู้ภัย ประสานและสั่งการและค้นหาศพผู้เสียชีวิตได้ครบทั้งหมดและสามารถกู้ รถที่จมอยู่ในน้ำ ขึ้นมาได้โดย เสร็จสิ้นสมบูรณ์จากนั้นได้นำศพไปชันสูตรพลิกศพที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชอำเภอท่าบ่อ   และได้นำศพทั้งหมด 4 ราย ไปมอบให้กับญาติเพื่อ นำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป อภิสิทธิ์ ประจักษ์ กท-01 เราจะเป็นจิตอาสาที่ดีของสังคมต่อไป สมาคมหนองคายการกุศล กู้ภัยประจักษ์ จังหวัดหนองคาย

วันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี บรรจุอัฐิธาตุหลวงปู่บุญมี ปร...

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี บรรจุอัฐิธาตุหลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ ที่พระสถูปเจดีย์

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีบรรจุอัฐิธาตุหลวงปู่บุญมี ปริ...

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีบรรจุอัฐิธาตุหลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ

วันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2561

วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2561

วันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2561

วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีพิธีบำเพ็ญกุศลและกิจกรรมน้อมร...

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีพิธีบำเพ็ญกุศลและกิจกรรมน้อมรำลึกในวันคล้ายวันสวรรคต

วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี น้ำตาตกในหนุ่มก่อสร้างถูกเบี...

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี น้ำตาตกในหนุ่มก่อสร้างถูกเบี้ยวค่าแรงเดินเท้ากลับโคราช

วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีน้ำตาตกในหนุ่มก่อสร้างถูกเบี้ยวค่าแรงเดินเท้ากลับโคราช








วันพฤหัสบดีที่11ตุลาคม2561 ผู้สื่อข่าวได้พบกับชายหนุ่ม 2 คนกำลังเดินไสรถไส 2 ล้อ มาตามถนนสาย 304 กบินทร์บุรี-ปักธงชัย ขาขึ้น บริเวณบ้านหนองคล้า ม.1 ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรีจ.ปราจีนบุรี ชายหนุ่ม 2คนเดินตากแดดร้อนจัดช่วงเวลา 14.20 น. โดยมีกระเป๋าเสื้อผ้ากระแป๋งและของใช้อีก 2-3 รายการสภาพเหงื่อไหลท่วมกายเสื้อผ้ามอมแมมจากนั้นแวะนั่งใต้ร่มไม้ข้างทาง ผู้สื่อข่าวได้สอบถามชายหนุ่มคนหนึ่งได้บอกว่าเดินเท้ามาจากมีนบุรี 4 วัน 4 คืน และได้บอกว่าชื่อนายโชคชัย แทวกระโทกอายุ 35 ปี บ้านเดิมอยู่บ้านเลขที่ 569 ม.2 ต.ทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว แต่ย้ายไปอยู่ที่จ.นครราชสีมานายโชคชัยกล่าวว่าตนไปทำงานรับจ้างก่อสร้างกับผู้รับเหมาได้ 1 ปี ได้ค่าแรงงวดละไม่กี่พัน และไม่ได้บ้างเถ้าแก่บอกว่าเงินยังไม่ออก จนตัวเองไม่มีข้าวหุงไม่มีเงินจึงตัดสินใจออกจากที่ทำงานทันทีด้วยการเท้า เมื่อวันที่  8 ตค.ที่ผ่านมาน้ำได้อาบบ้างไม่ได้อาบบ้าง ไม่มีเงินติดตัวสักบาทเดินเท้าอย่างเดียวเป้าหมายคือทับลาน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเคยมีนายตำรวจแถวนั้นเคยให้ตนทำงานด้วย และเมื่อเช้าที่ผ่านมาเดินทางมาถึงแยกเขาหินซ้อนมีศาลาที่พักผู้โดยสารจึงแวะพักเอาแรง และเห็นมีคนอยู่ในศาลาและได้พูดคุยด้วย ทราบว่าเป็นคนโคราชด้วยกันชื่อนายกมล แช่มสำโรงอายุ 42 ปี อยู่ที่ 194 ม.5 ต.สำโรง อ.ปักธงชัยจ.นครราชสีมา นายกลมบอกว่าตนถูกนายจ้างเบี่ยวค่าแรงเหมือนกันไปทำงานที่ชลบุรี เดินเท้ามาหลายวันแล้วไม่รู้จักกันมาก่อน หลังจากคุยกันแล้วเป็นคนบ้านเดียวกันจึงเดินทางมาด้วยกันเพื่อที่จะหางานทำงานอะไรก็ได้ถ้ามีคนจ้างขอให้เป็นงานสุจริตทำทั้งนั้น ขณะนั้นผู้สื่อข่าวประสานรถตำรวจทางหลวงจากตู้ยามศรีมหาโพธิ (ดต.สุนเดชภาระกิจ) ที่ขับรถผ่านมาเพื่อที่จะขอให้รถกู้ภัยนำส่งแต่ทั้งสองขอเดินไปดีกว่าครั้นจะกลับบ้านตอนนี้อายเขาอยากขอเดินไปอีกวันสองวันก็คงถึงทับลานค่ำไหนนอนนั่นอีกสักคืนผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์หานางบัวชุม แทวกระโทก ที่นายโชคชัยกล่าวอ้างว่าเป็นแม่ นางบัวชุม กล่าวว่านายโชคชัยเป็นลูกชายตนจริงออกไปรับจ้างทำงานที่กรุงเทพฯได้เกือบปีแล้ว เสียใจที่ลูกชายทำงานไม่ได้เงินได้บอกกลับบ้านอย่าไปคิดเอาเรื่องกับเขา เขาไม่ให้ก็ช่างเขากลับมาทำมาหากินที่บ้านดีกว่านายโชคชัยกล่าวถึงนายจ้างว่าขอให้เลิกทำนาบนหลังคนได้แล้วคนเขามีหัวจิตหัวใจเหมือนกันทำงานให้ตนเองรับเงินมาแล้วไม่ให้บ่ายเบี่ยงมาตลอดหลายคนที่ตกอยู่ในสภาพเดียวกับตนเขามาลูกมีเมียมีครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบต้องกินต้องใช้ จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ให้เงิน500 บาทเอาติดตัวไว้ซื้อข้าวกินกว่าจะได้ทำงานและชาวบ้านให้น้ำดื่มไว้กินตามทางกว่าจะถึงที่หมายปลายทางในวันพรุ่งนี้...

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีชุดสืบสภบ้านผือโชว์ผลงานรวบโจ๋รุ่นใหญ่ค้ายาบ้า






วันพฤหัสบีที่11ตุลาคม2561สถานีตำรวจภูธรบ้านผือจังหวัดอุดรธานี โดยการอำนวยการของ  พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์  ผกก.ฯ, พ.ต.ท.เจษฎา แพ่งศรีสาร รอง ผกก.สส.ฯ, พ.ต.ต.นครินทร์ ศรีอัครวิเนต สว.สส.ฯมอบหมายให้ ชุดสืบสวน  นำโดย ร.ต.อ.คำเกนย์  มีสิงห์ สว.สส.ฯ, ร.ต.อ.มนต์ชัย  พลายแสง รอง สว.สส.ฯ  ได้ร่วมจับกุม นายศักดิ์ดา  บุญสว่าง  อายุ  26  ปี บ้านเลขที่ 129  หมู่ที่ 2  ตำบลโนนทอง   อำเภอบ้านผือ   จังหวัดอุดรธานี  พร้อมของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)  จำนวน  3  เม็ด (ล่อซื้อ)ยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 102 เม็ด (ตรวจค้น)  โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ SAMSUNG สีดำ จำนวน  1  เครื่องธนบัตรล่อซื้อยาเสพติดจากผู้ต้องหา  จำนวน   300 บาทกระเป๋าสะพาย ยี่ห้อ VAN STREET สีเทาดำ  จำนวน  1  ใบบันทึกผลตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดเบื้องต้นของผู้ต้องหา  จำนวน  1  แผ่นโดยกล่าวหาว่า จำหน่าย และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายและได้ทำการตรวจยึดทรัพย์ตาม พรบ.มาตรการฯ ประกอบด้วยเงินสด จำนวน  27,530 บาท(สองหมื่นเจ็ดพันห้าร้อยสามสิบบาท).รถแทรกเตอร์ยี่ห้อ KUBOTA สีส้ม  รุ่น L5018DT พร้อมใบมีดดันดินหน้าและผานไถนา(ผาน3)ด้านหลัง หมายเลขเครื่องยนต์ B2403-BJE5060 จำนวน 1 คัน เหตุเกิดที่   ริมถนนทางทิศเหนือภายในหมู่บ้านหนองกุง  ม.8  ต.หายโศก  อ.บ้านผือ  จว.อุดรธานีนำตัว ผู้ต้องหา.พร้อมของกลาง ส่ง พงส.สภ.บ้านผือ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

วันพุธที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี สลดผู้ต้องหาวัย 25 เครียดผูก...

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี สลดผู้ต้องหาวัย 25 เครียดผูกคอดับในห้องขัง

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี สลดผู้ต้องหาวัย 25 เครียดผูก...

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี สลดผู้ต้องหาวัย 25 เครียดผูกคอดับในห้องขัง

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีสลดผู้ต้องหาวัย 25 เครียดผูกคอดับในห้องขัง







วันพุธที่10ตุลาคม2561เมื่อเวลา 12.10 น.วันนี้พ.ต.ท.อาทิตย์ ศรีปราชญ์ สารวัตรสอบสวนสภ.ประจันตคามได้รับแจ้งจาก ร.ต.อ.เฉลิมเกีรยติ โกษา เวรผู้ควบคุมผู้ต้องหา สภ.ประจันตคาม ว่าเกิดเหตุผู้ต้องหาผูกคอตายในห้องขังจึงแจ้งร้อยเวรทราบและรายงานให้พ.ต.อ.พงศ์พันษ์ พลวงษ์ศรี ผกก.ทราบ หลักเกิดเหตุแจ้งแพทย์เวร รพ.ประจันตคามมาร่วมชันสูจน์พลิกศพ ภายในห้องขังด้านในพบผู้ต้องหาชาย 1 ราย ใช้เชือกที่ทำจากหูกางเกงแบบผ้าร่มสีดำผู้คอตัวเองติดกับราวเหล็กเสียชีวิตภายในห้องขัง สภาพศพนุ่งกางเกงขาสั่นสีดำไม่สวมเสื้อ ทราบชื่อนายยุทธนา เทพโส อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 ม.8ต.บุฝ้าย อ.ประจันตคามจ.ปราจีนบุรี ผู้เสียชีวิตต้องโทษในคดียาเสพติดซึ่งถูกตำรวจจับกุมได้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาร.ต.อ.เฉลิมเกียติ ผู้ควบคุมผู้ต้องหากล่าวว่าช่วงเช้าก่อนเที่ยงเล็กน้อยญาติๆมาเยี่ยมตนได้บอกว่าหมดเวลาเยี่ยมแล้วบอกให้มาเยี่ยมใหม่ช่วงบ่าย ก่อนถึงเวลาเยี่ยมได้มองดูเห็นว่าผู้ต้องหายืนอยู่ข้างลูกกรงเหล็กส่งเสียงบอกแต่ผู้ต้องหาไม่ตอบจนมองดูชัดๆถึงรู้ว่าผู้ต้องหาได้ผูกคอตัวเองติดกับราวเหล็กด้านบนเสียชีวิตดังกล่าว ต่อมานายอำเภอประจันตตามเจ้าหน้าที่ทหารชุดรส.มทบ.12 เข้ารวมตรวจสอบนส.สุกัญญา ราชฎาอายุ 17 ปี แฟนสาวได้กล่าวว่าตัวเองกับญาติมาเยี่ยมแต่ตำรวจบอกหมดเวลาเยี่ยมแล้วให้รอก่อน ต่อมาได้รับแจ้งว่าแฟนผู้คอตายในห้องขังแล้ว ตนรู้สึกงงมากไม่คิดว่าแฟนจะคิดสันทำร้ายตัวเองแบบนี้ นางสายชล เทพโส อายุ 55 ปี มารดาผู้เสียชีวติได้กล่าวว่ารู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น พรอผู้เสียชีวติไม่เชื่อว่าลูกชายจะฆ่าตัวเองตายแบบนี้น่าสงสัยมากแค่ขึ้นอยู่กับตำรวจว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้นขณะนี้ทุกคนยังทำใจไม่ได้.ภาพ/ข่าว:ทองสุขสิงห์พิมพ์ /รายงาน...

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีทำดีต้องมีคนเห็นพลเมืองดีกระซ...

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีทำดีต้องมีคนเห็นพลเมืองดีกระซิบนักข่าว

วันอังคารที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีทำดีต้องมีคนเห็นพลเมืองดีกระซิบนักข่าวพบคนดีทำดีระลึกถึงพ่อตัดผมฟรี26-30 ตค.61





วันอังคารที่9ตุลาคม2561ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งพบมีช่างตัดผมฟรีกับบุคคลทั่วไปเพื่อน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปรมินทรภูมิพลอดุลเดช ในรัชกาลที่ 9(ในหลวง ร.9) ณ ที่หน้าจุดสะกัดโคกกระบกบ.โป่งไผ่ ต.ท่าตูมอ.ศรีมหาโพธิจ.ปราจีนบุรี หลังได้รับแจ้งจึงลงพื้นที่ตรวจสอบพบชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ข้างรถกระบะสีเทาทะเบียน บพ 671 ปราจีนบุรี ท้ายกระบะมีป้ายทำจากไวทนิลขนาดเล็กเขียนด้วยปากกาเมจิกมีสีน้ำเงิน-แดงมีข้อความว่า"ตัดผมชายฟรี ทำดีเพื่อพ่อหลวง เวลา 15.00 น.วันที่ 26กย.-30 ตค."ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเจ้าตัวทราบชื่อนายขวัญใจเรือนธรรม อายุ 38 ปีบ้านเกิดอยู่ที่ 54 ม.7 ต.บ้านโทน อ.โพนนางแก้ว จ.สกลนคร นายขวัญใจ กล่าวว่าหลังจากเรียนจบจากวิทยาลัยชาชีพแห่งหนึ่งมาก็ตัดผมอยู่แถวบ้านเกิด ต่อมาย้ายมาทำมาหากินในจังหวัดปราจีนบุรี ส่วนตัวอยากทำความดีเพื่อสังคมบ้างจึงออกบริการตัดผมฟรีให้กับคนทั้วๆไป โดยจะขับรถกระบะออกไปตามจุดต่างๆที่มีคนเยอะๆให้ได้รู้ได้เห็นกัน ทั้งที่หน้าโรงงาน แหล่งตามชุมชน ต่างๆ แค้มป์คนงานก่อสร้างโดยจะหมุนเวียนไปรอบๆตัวอำเภอนี้ ตนยังระลึกถึงในหลวงอยู่มิรู้ลืม และปีนี้ใกล้จะถึงวันที่พระองค์ทรงเสด็จสวรรค์คต เพื่อเป็นการระลึกถึงพระองค์ท่านจึงอยากทำความดีเพื่อถวายแด่พระองค์ท่านได้บริการตัดผมฟรี ตนเองพอมีอาชีพค้าขายเปิดร้านขายลูกชิ้นทอดอยู่ที่หน้าเซเว่นแยกประทุมวันริมถนนสาย 304 ข้างบริษัทแลกตาซอยตั้งแต่เวลา 18.30 - 21.00 น.ทุก วันนี้ออกมาตัดผมฟรีก่อนเวลานิดหน่อยนายขวัญใจได้บอกว่าถ้าใครต้องการมาร่วมกิจกรรมทำความดีด้วยยินดีต้อนรับแวะทักทายขอร่วมกิจกรรมได้ทุกคน นายมณี พุฒธรักขิโต อายุ 79 ปี ทราบข่าวรีบออกมาดูและรีบใช้บริการตัดฟรีและให้พรนายขวัญใจขอให้้เจริญๆทำมาค้าขึ้นขอให้อยู่เย็นเป็นสุขตลอดไป นายจตุรงค์ ทองมา นายนิกร เอกธรรม พนักงานบริษัท ได้มาเห็นแวะมาสอบถามพูดคุยด้วยและให้กำลังใจทำดีต่อไป ตนเองกับเพื่อนขับรถผ่านมาเห็นเลยแวะมาดูใจจริงอยากตัดผมฟรีด้วยแต่ไม่มีเวลามากนักแค่ลงมาพูดคุยด้วย ผู้สื่อข่าวเฝ้ารอดูว่าจะมีคนมาตัดผมฟรีมากน้อยแค่ไหน ตลอดเวลาที่รอดูมีคนมาตัดผมฟรีกว่า 10 คน นับว่าเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมและน่ายกย่อง...ภาพ/ข่าว:ทองสุขสิงห์พิมพ์ /รายงาน...

วันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี ชาวปราจีนบุรี กิจกรรมเดินชมเ...

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี ชาวปราจีนบุรี กิจกรรมเดินชมเมือง วิ่งและปั่นชมธรรมชาติ

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี ชาวปราจีนบุรี กิจกรรมเดินชมเมือง วิ่งและปั่นชมธรรมชาติ










วันอาทิตย์นี้ 7ตุลาคม2561ณ ที่ว่าการอำเภอศรีมหาโพธิจ.ปราจีนบุรี เมื่อเวลา 05.00 น.นายพิบูลย ์หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีเป็นประธานงานกิจกรรมเดินชมเมืองวิ่งและปั่นชมธรรมชาติ(3/13/33) ครั้งที่ 2 ประจำปี พศ. 61 กิจกรรมเดินชมเมือง วิ่งและปั่นชมธรรมชาติ ในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 นายพงษ์สิทธิ เนื่องจำนงค์ นายอำเภอศรีมหาโพธิ กล่าวว่ากิจกรรมนี้จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ให้ประชาชนในพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ ได้มีโอกาสออกกำลังกายและทำกิจกรรมร่วมกัน ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวก่อให้เกิดรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจในอ.ศรีมหาโพธิ รายได้หักค่าใช้จ่ายแล้วสมทบทุนมูลนิธิระบบสุขภาพอ.ศรีมหาโพธิ กิจกรรมในครั้งนี้ประกอบด้วย1.กิจกรรมเดินชมเมืองระยะทาง 3 กม.มีผู้ร่วมเดิน 1,300 คน 2.กิจกรรมวิ่งนิมิมาราธอน ระยะทาง 13 กม.มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม750คน3.กิจกรรมปั่นจักรยานระยะทาง 33 กม. มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น2,389 คน กิจกรรมในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจากส่วนราชการ อ.ศรีมหาโพธิและภาคเอกชน ซึ่งได้มอบเงินสมทบทุนระบบสุขภาพ 500,000 บาทห้าแสนบาทถ้วน.ภาพ/ข่าว/ทองสุข สิงห์พิมพ์รายงาน...

วันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีสืบสานประเพณีแซนโฏนตา บูชาบรร...

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีสืบสานประเพณีแซนโฏนตา บูชาบรรพบุรุษชุมชนชาวเมืองสุรินทร์

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีงานสืบสานประเพณีแซนโฏนตา บูชาบรรพบุรุษ (สารทเขมร) ของชุมชนชาวพื้นเมืองสุรินทร์ โดยมีขบวนช้างร่วมขบวนแห่เครื่องเซ่นไหว้












                      วันพฤหัสบดีที่4ตุลาคม2561นายประภัสสร์ มาลากาญจน์  ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ให้เกียรติมา เป็นประธานพิธีเปิดงาน สืบสานประเพณีแซนโฏนตา บูชาบรรพบุรุษ (สารทเขมร) ของชุมชนชาวพื้นเมืองสุรินทร์พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการและลูกหลานชาวจังหวัดสุรินทร์ ทั้งที่พูดภาษาเขมร ส่วย กวย และภาษาลาวเป็นภาษาถิ่น ร่วมรับเครื่องเซ่นไหว้จากชาวบ้านที่มาประกอบพิธีเซ่นไหว้ร่วมกันยังอนุสาวรีย์ฯและขบวนแห่อัญเชิญเครื่องแซนโฎนตา (เครื่องเซ่นไหว้ )  เช่น ไก่ เนื้อ หมู ปลา ข้าวสาร ข้าวสวย ผลไม้ ขนมกระยาสารท และข้าวต้ม หางยาวใส่กระเชอโฎนตา รวมทั้งอาหารคาวหวานที่ร่วมกันปรุง เพื่อเตรียมเซ่น ไหว้บรรพบุรุษ ของตน ที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งผู้เข้าร่วมขบวนต่างก็แต่งชุดผ้าไหมพื้นบ้านที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดสุรินทร์ พร้อมทั้งขบวนขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะพื้นบ้านสุรินทร์ร่วมในขบวน มีช้างจำนวน 9 เชือก ร่วมในขบวนเชิญเครื่องเซ่น โดยเคลื่อนขบวนจากบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ไปรอบเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ และมารวมตัวกันที่บริเวณลานหน้าอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง (ปุม) เพื่อร่วมงาน"ประเพณีแซนโฎนตา บูชาบรรพบุรุษ ” ต่อหน้าอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีรงค์จางวาง ซึ่งเป็นเจ้าเมืองคนแรก  โดยในปีนี้ได้มีการแสดงแสง สี เสียง "ตำนานแซนโฎนตา บูชาบรรพบุรุษ" ณ บริเวณจุดจัดงานด้วยโดยงานประเพณีแซนโฎนตา บูชาบรรพบุรุษ ของพี่น้องชาวเขมรพื้นเมืองสุรินทร์ร่วมไปถึงชนชาวกูยหรือส่วยอีกด้วย ซึ่งไม่เฉพาะชนชาวเขมรพื้นเมืองที่ จ.สุรินทร์ ที่จัดพิธี "สารทใหญ่" หรือ "เบ็ญธม" ในวันที่ 8 ตุลาคม 2561 หรือ ตรงกับ แรม 15 ค่ำเดือน 10 ซึ่งถือเป็น วันแซนโฎนตาที่แท้จริง แต่จะประกอบพิธีก่อน 1 วันตรงกับวันแรม 14 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปี ส่วนการจูนโฎนตา(เชิญเครื่องเซ่น) เป็นการนำอาหารคาว หวาน ของสด ผลไม้ ไปไหว้ แก่ผู้อาวุโสในครอบครัว  ซึ่งลูกหลานทุกคนจะเตรียมไปไหว้ขอพรจากผู้ใหญ่ โดยลูกหลานชาวพื้นเมืองสุรินทร์ ที่ไปทำงานยังต่างถิ่นหรือตั้งถิ่นฐานอยู่ที่อื่น ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกล จะเดินทางกลับมารวมญาติเพื่อทำพิธีแซนโฎนตา คือการเซ่นไหว้บรรพบุรุษ อย่างพร้อมหน้าพร้อมตากัน ในส่วนการแซนโฎนตาของแต่ละบ้าน การแซนโฎนตา เป็นการเตรียมสำรับอาหารคาว หวาน ขนม ข้าวต้มมัด กระยาสารท ฯลฯ นำมาจัดในกระเชอหรือกระด้ง หรือเรียกว่า "กระจือโฎนตา” ซึ่งเป็นการเตรียมไว้สำหรับการเซ่นไหว้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว และจะเตรียมอาหารคาว หวาน ของสด ผลไม้ไปวัดในเช้าของ วันแรม 15 เดือน 10 เพื่อเป็นการทำบุญให้แก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว  กำชัย วันสุข  ส.ปชส. ร่วมกับทีมข่าวเมืองช้างแชนแนลจังหวัดสุรินทร์  รายงาน