โผล่อีกแล้ว กรณีคนร้ายขโมยศีรษะศพตายโหง
ล่าสุดเกิดที่บ้านนาเมืองไทย อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี คนร้ายเข้าไปทุบโบกปูนที่บรรจุไป ๒ ศพ แต่ได้ไปแค่ศีรษะของศพเดียว
ญาติวิงวอนให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามคนร้ายนำมาคืนเพราะอยากได้ศีรษะลูกชายมาทำบุญ
หายอีกแล้ว ศีรษะคนตายโหง วันพุธที่๑๖กันยายน๒๕๕๘เมื่อ เวลา๐๙.๐๐น. พ.ต.อ.ประสาน ชนกนำพล ผกก.สภ.น้ำโสมพร้อมพ.ต.ท. นัฐเชษฐ โคตรรนาม รองผกก.ป.และชุดสืบพร้อมผู้สื่อข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือ ผู้สื่อข่าวเดลิวส์ ประจำอำเภอบ้านผือผู้สื่อข่าวช่อง๓จังหวัดอุดรธานีเดินทางไปยังวัดป่านาเมืองไทย
ต.น้ำโสม อำเภอน้ำโสม จังหวัดอุดรธานี หลังจากทราบจากนางอินปลัด ศรีบุรินทร์ อายุ ๕๘ ปีชาวบ้านบ้านนาเมืองไทย ว่ามีคนร้ายเข้ามาทุบเบ้าขโมยศีรษะศพของลูกชายไป
เกิดเหตุเมื่อวันจันทร์ที่๑๔กันยายน๒๕๕๘.ที่ผ่านมาที่บริเวณสวนยางพาราข้างวัดป่านาเมืองไทย
โดยผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าไปตรวจสอบบริเวณหลุมฝังศพ
หรือคนอีสานเรียกเบ้าศพ
ที่ใช้สำหรับฝังคนตายโหง บริเวณสวนยางพาราข้างวัดป่านาเมืองไทย
โดยนางอินปลัด เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า
ลูกชายคือนายธีระพงษ์ ศรีบุรินทร์ อายุ ๒๖ ปีก่อเหตุผูกคอตายเมื่อวันพฤหัสบดีที่๒๘พฤษภาคม๒๕๕๘ ทีผ่านมา จากนั้นได้นำศพมาฝังไว้ที่สวนยางข้างวัด ซึ่งเป็นที่ของตนเอง
ต่อมามีคนมากรีดยางมาเล่าให้ฟังว่า ช่วงเวลา ๐๙.๐๐น..วันจันทร์ที่๑๔กันยายน๒๕๕๘หรือ ๒ วันทีผ่านมา ได้มีคนร้ายเป็นชายจำนวน ๔ คนขับรถเก๋งสีขาวไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียนเข้ามาจอดอยู่ถนนข้างวัด และเห็นชายทั้ง ๔ คนใช้ฆ้อนทุบบริเวณหลุมศพแล้วนำศีรษะศพของลูกชาวคือนายธีระพงษ์ไป
และคนร้ายยังไปทุบโบกศพของศพตายโหงที่อยู่ห่างกันเพียง ๒๐ เมตรด้วย แต่ไม่สามารถนำศีรษะออกมาได้ ทั้งนี้ในพื้นที่ อ.น้ำโสมยังไม่มีเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาก่อน
นางอินปลัด บอกกับผู้สื่อข่าวอีกว่า
ตอนนี้อยากให้เจ้าหน้าที่ ตร.ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ด้วย
เพราะอยากได้ศีรษะของลูกชายกลับมาคืนมา เพื่อนำมาทำบุญหลังจากครบ ๓ปี
ขณะที่ชาวบ้านเชื่อว่า
คนร้ายน่าจะนำศีรษะศพตายโหงไปทำพิธีกรรมทางไสยศาสตร์แน่นอน
ทั้งนี้กรณีคนร้ายขโมยศีรษะศพตายโหงเคยเกิดขึ้นใน
จังหวัดอุดรธานีมาแล้วครั้งหนึ่งที่ จ.อุดรธานี เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา
โดยศีรษะศพตายโหงหายไปถึง ๓ หัว
จนถึงขณะนี้ยังติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีไม่ได้แต่อย่างใด
ล่าสุดก็ได้มาเกิดเหตุขโมยศีรษะศพตายโหงในพื้นที่ อำเภอน้ำโสมในขณะนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น