ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี เครือข่ายเกษตรอินทรีย์ประชารัฐอุดรธานีออกโรงต้านสารเคมีทำการเกษตร ยื่นหนังสือต่อทางจังหวัดเพื่อเรียกร้องให้ยุติบริษัทฯนำเข้าสารเคมีทุกชนิด โดยร่วมกับทางเครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษที่มีอันตรายร้ายแรง ออกแถลงการณ์รวมพลังเคลื่อนไหวใหญ่ หน้าทำเนียบรัฐบาลและใน 76 จังหวัดทั่วประเทศณ หน้าศาลากลางจังหวัดอุดรธานี

วันอังคาร(19 กันยายน 2560)  นายภาคภูมิ ปุผมาศ ประธานเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ประชารัฐอุดรธานี สมาพันธ์เพาะเห็ด แห่งประเทศไทย ได้มอบหมายให้สมาชิกเครือข่ายต่าง ๆ ได้ออกมาเรียกร้อง สนับสนุนการแบนสารพิษที่มีอันตรายร้ายแรง ได้แถลงข่าว “รวมพลังสนับสนุนการแบนสารพิษกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง”หลังจากนั้นทาง นายสุชัย  บุตรสาระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี และ นางวราภรณ์ อิ่มแสงจันทร์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุดรธานี เดินทางมารับหนังสือจากตัวแทนแกนนำที่ประกอบด้วย นางนิสิต สํกยพันธ์ น.ส.จันทร์จรัส สอนหิลาด และ นายธนกฤต วิทยารัตน์ ตัวแทนเครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษที่มีอันตรายร้ายแรงจากมติของคณะกรรมการขับเคลื่อนปัญหาการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งประกอบไปด้วยคณะกรรมการจาก 4 กระทรวงหลัก ได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงสาธารณสุข ให้มีการดำเนินการเพื่อยกเลิกการใช้สารเคมีกำจัดวัชพืช "พาราควอต" และสารเคมีกำจัดแมลง "คลอร์ไพริฟอส" และจำกัดการใช้ไกลโฟเซตในพื้นที่สาธารณะ พื้นที่ต้นน้ำ ชุมชนและพื้นที่เปราะบาง เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน และศูนย์เด็กเล็ก แต่ในอีกด้านหนึ่ง เนื่องจากวันที่ 9 ตุลาคม 2560 ทะเบียนพาราควอตของบริษัทซินเจนทาจะหมดอายุลง ทำให้มีความเคลื่อนไหวของผู้เสียประโยชน์เพื่อที่จะต่ออายุทะเบียนและไม่ให้มีการแบนสารเคมีกำจัดศัตรูพืชเหล่านี้ ดังนั้นองค์กรที่ทำงานด้านเกษตร คุ้มครองสุขภาพ และสิ่งแวดล้อมจึงได้รวมตัวกันในนาม “เครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษที่มีอันตรายร้ายแรง” เพื่อแสดงเจตนารมณ์และสนับสนุนมติของกระทรวงสาธารณสุขเครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษที่มีอันตรายร้ายแรง ได้แถลงการณ์ว่า หลังจากที่ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศมติดังกล่าวเมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา ทางกรมวิชาการเกษตรได้มีการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นมาเป็นลำดับ โดยข้อมูลส่วนใหญ่จากผู้เข้าร่วมเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นและการอ้างผลงานที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนทำให้ขาดความน่าเชื่อถือทางวิชาการ ทางเครือข่ายจึงขอสนับสนุนมติของกระทรวงสาธารณสุข คือ ให้มีการยกเลิกพาราควอต คลอร์ไพริฟอส และจำกัดการใช้ไกลโฟเซต โดยยุติการขึ้นทะเบียนในปี 2561 และยุติการใช้ภายในปี 2562 และยืนยันที่จะให้ทางกรมวิชาการเกษตรปฏิบัติตามมติโดยไม่มีการต่อทะเบียนที่กำลังจะหมดอายุลง และให้พิจารณายกเลิกทะเบียนที่ยังไม่หมดอายุให้เป็นไปตาม road map เพื่อเป็นการ phase out อย่างเร่งด่วน และเพื่อเป็นการยืนยันถึงความต้องการสนับสนุนมติเหล่านี้ ทางเครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษที่มีอันตรายร้ายแรงจึงมีการเคลื่อนไหวใหญ่ในวันที่ 19 กันยายน 2560