ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีหนุ่ม.ใหญ่วัย38ขับรถซีวิคเมาแ...

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีหนุ่ม.ใหญ่วัย38ขับรถซีวิคเมาแล้วขับพลาดท่าหวิดดับ

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีหนุ่ม.ใหญ่วัย38ขับรถซีวิคเมาแล้วขับพลาดท่าหงายท้องกลางสะพานหวิดดับ

วันพฤหัสบดีที่31พฤษภาคม2561เมื่อเวลา 00.30 น. พ.ต.ต.นันทพล ขุนละคร. พนักงานสอบสวนสภ.สระบัว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยมังกรปราจีนบุรี ว่า เกิดเหตุรถยนต์เก๋ง ชนราวสะพานพลิกคว่ำมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลังรับแจ้งจึงจัดรถสายตรวจรุดไปยังที่เกิดเหตุทันที ที่เกิดเหตุอยู่บนสะพานบ้านหนองคล้า ม.1 ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรีจ.ปราจีนบุรี พบรถยนต์เก๋งนั่งส่วนบุคคลยี่ฮ้อฮอนด้าซีวีคสีดำหมาย ทะเบียน ภฮ 7880 กทม.มีร่องรอยถูกเฉี่ยวชนที่ประตูหน้าด้านขวาถลอกกระจกแตก จากการสอบถามนาย สมรสอนพรม อายุ 38 ปี บ้านอยู่ ต.ท่าตูมอ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี คนขับซึ่งนายสมรอยู่ในสภาพตกใจพูดไม่ออกบอกไม่ถูก โดยนายสมรกล่าวว่าตนเองกับเพื่อนสองคนขับรถมาจากกบินทร์บุร ีเพื่อที่จะกลับบ้านที่ ต.ท่าตูมอ.ศรีมหาโพธิจ.ปราจีนบุรี เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถเกิดเสียหลักกลางสะพานส่ายไปมาและชนกับราวสะพานและพลิกคว่ำหงายท้องดังกล่าว นายสมรกล่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตนกินเหล้ามากับเพื่อนนิดหน่อยและขอตัวกลับบ้านและมาประสบอุบัติเหตุดังกล่าว.ภาพ/ข่าว:ทองสุขสิง์พิมพ์

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีสาวใหญ่วัย 43 ขับรถกระบะเสียห...

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีสาวใหญ่วัย 43 ขับรถกระบะเสียหลักพุ่งชนเกาะกลางถนนหวิดดับ

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีหนุ่มวัย51ลงห้วยหาหอยจมน้ำ ดั...

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีหนุ่มวัย51ลงห้วยหาหอยจมน้ำ ดับอนาถ

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี หนุ่มใหญ่วัย51ลงห้วยหาหอยจมน้ำ ดับอนาถ

วันพุธที่30พฤษภาคม2561เมื่อเวลา 22.00 น.30 พ.ค.61 พ.ต.ต.วีระพล สิทธิพันธ์ รับแจ้งจากกู้ภัยร่วมกตัญญูจุดประจันตคาม  ได้รับแจ้งจาก นางวาสนา อ่อนน้อม อายุ 55 ปี เลขที่ 531 หมู่ ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี  อยู่บ้านเช่าไม่มีเลขที่หลังห้างปิงพลาซ่า ต.โพธิ์งามอ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ว่า นายการะเวก พูนสุข  อายุ 51 ปี  สามี ไปงมหอยที่สระน้ำหลังวัดบ้านโง้ง หมู่ 2 ต.โพธิ์งาม  อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ยังไม่พบตัว  พบแต่เพียงเสื้อผ้า  กับรองเท้าแตะที่สวมใส่ คาดว่าจมน้ำเสียชีวิตแล้ว  จึงรายงานผู้บังคับบัญชาพร้อมประสานระดมนักประดาน้ำรวมจำนวนกว่า 20 คน พร้อมเรือพาย 2 ลำ และเครื่องไฟส่องสว่าง  รุดไปที่เกิดเหตุ ที่เกิดเหตุเลยถนนสายสุวรรณศร(ประจันตคาม – กบินทร์บุรี)แยกเข้ามาข้างวัดบ้านโง้ง เลียบแนวกำแพงเข้าไปกว่า 200 เมตร เป็นสระน้ำขนาดใหญ่ ความกว้างประมาณ 100 เมตร  ความยาว 200 เมตรลึก 3 เมตรเศษ  ที่หัวสระพบศาลเจ้าพ่อโง้ง ปลูกสูงเท่าศาลเพียงตาตั้งตระหง่าน  พร้อมกับมีไทยมุงมากกว่า 100 คน มามุงดูที่โคนต้นไม้พบเสื้อ-กางเกง และรองเท้าแตะของผู้สูญหายในน้ำถอดทิ้งไว้   หน่วยประดาน้ำ – ชาวบ้านได้ช่วยกันงมค้นหา ใช้เวลานานกว่า3 ชม. ยังไม่พบจนเกือบท้อใจ  ได้มีการประสานขอกำลังนักประดาน้ำเพิ่มเติมจากหน่วยกู้ภัยในจังหวัดใกล้เคียงเนื่องจากสระน้ำใหญ่มากล่าสุดได้มีเพื่อนบ้านของผู้เสียชีวิตแจ้งว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตเคยขอกินเหล้าขาว จึงได้ซื้อเหล้าขาวจำนวน 1 ขวด พร้อมจุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่ – เจ้าพ่อโง้ง หลังแค่เพียงธูปติดไฟ ชาวบ้าน-นักประดาน้ำที่ร่วมงมหาศพต่างร้องลั่นว่าพบศพแล้ว โดยจมอยู่หางริมสระน้ำประมาณ 5 เมตรเศษ พร้อมกับนำร่างขึ้นมาในสภาพ สวมใส่เพียงกางเกงชั้นในตัวเดียว ที่ข้อมือซ้ายยังด้วยผูกเชือกฝางมีหม้ออลูมิเนียมเบอร์ 30 ติดคาอยู่ ตามร่างกายไม่พบบาดแผล หรือร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใดนางวาสนา กล่าวว่า ตนเองพร้อมสามี มีอาชีพรับจ้างฐานะยากจน อยู่ 3 คน พ่อ-แม่-ลูก   ก่อนเกิดเหตุสามีบ่นอยากกินหอยขม,หอยเชอรี่ จึงออกมางมหาหอยตามลำพัง ทั้งที่ทุกครั้งที่หากมาหางมหอยจะมาพร้อมกัน  จนกระทั่งเที่ยงจึงให้บุตรนำอาหาร – น้ำ มาส่ง พบแต่เสื้อผ้า-รองเท้าแตะวางกองใต้โคนต้นไม้  ไม่พบสามี รอจนเย็นค่ำยังไม่เห็น จึงแจ้งหน่วยกู้ภัยมาช่วยงมหาดังกล่าว คาดว่าจากที่อากาศร้อนจัด สามีอาจเป็นลมแดด หรือ เป็นตะคริวจนจมน้ำเสียชีวิตดังกล่าว  ซึ่งทางตนเอง-ญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต...เครติดภาพ/กู้ภัยร่วมกตัญญูข่าว:ทองสุข สิงห์พิมพ์

อย่าเว้าพื้นน้องเด้อ ศิลปิน สำลีโพธิ์เพชร (ดัเจจ๊ะเอ๋เรดิโอ)

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีวันพุธที่๓๐พฤษภาคม2561

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีวันพุธที่๓๐พฤษภาคม2561

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีแสดงตัวแล้วตาวัย 71 ขับรถย้อนศร

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีแสดงตัวแล้วตาวัย 71 ขับรถย้อนศร

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีแสดงตัวแล้วตาวัย 71 ขับรถย้อนศรคลิปภาพรถอีซูซุสีขาวขับย้อนศรมาที่บริเวณหน้าหมู่บ้านกล้องตะวัน ต.เมืองเก่าอ.กบินทร์บุรีจ.ปราจีนบุรี

จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งนำคลิปภาพรถอีซูซุสีขาวขับย้อนศรมาที่บริเวณหน้าหมู่บ้านกล้องตะวัน ต.เมืองเก่าอ.กบินทร์บุรีจ.ปราจีนบุรี ทำให้รถตนได้รับความเสียหายแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บในคลิปดังกล่าวสุภาพสตรีสองคนขับรส่วนบุคคลมุ่งหน้าสี่แยกไฟแดงหรือสี่แยกสามทหาร เมื่อวานนี้เวลาประมาณ11.00 น ในภาพขณะที่หญิงสาวขับรถมาตามถนนสายสุวรรณศร(33) จู่ๆได้มีรถกระบะอีซูซสีขาวขับย้อนศรวิ่งตรงมาอย่างเร็ว ตนเองรู้สึกตกใจที่มีรถยนต์วิ่งย้อนศรบนถนนสายหลัก ขณะเกิดเหตุทำให้รถของเธอเสียหลักหมุนคว้างหนึ่งรอบรถชนกับขอบฟุตบาดกระจังหน้ารถด้านซ้ายแตกหัก เพื่อนปลอบใจพร้อมทั้งบอกให้ตั้งสตินำรถออกไว้ข้างทางก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุซ้อน หลังจากเกิดเหตุตนและเพื่อนได้นำคลิปภาพโพสต์ลงเฟสบุ๊คเพื่อตามหารถคันดังกล่าวเมื่อเวลา 14.02 น.วานนี้หลังจากนั้นโลกโซเชียลได้แชร์คลิปภาพตามหารถอีซูซุในภาพล่าสุดวันนี้ 30 พค.61ได้มีเจ้าของรถอีซูซุสีขาวได้ออกมาแสดงตัวแล้วคือนายสมจิตร์ วาจาตรงอายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่66 ม.15 ต.เมืองเก่าอ.กบินทร์บุรีจ.ปราจีนบุรี และขอเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแสดงความบริสุทธิใจว่าไม่ได้หลบหนี นายสมจิตร์ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อข่าวว่า วานนี้เมื่อเวลา 11.00 น.ตนขับรถอีซูซุ สีขาว ทะเบียน ศม6653 กทม มาส่งพระเพื่อมาทำธุระหลังจากเสร็จภาระกิจก็ขับรถออกมาจากบริเวณดังกล่าว ตนเห็นว่าเป็นถนนก็เลยขับตรงมาโดยไม่รู้ว่าขับย้อนศรประกอบกับตนเองมีโรคประจำ เบาหวาน-ความดันตาลายมองเห็นไม่ชัดเมื่อขับรถขึ้นทางตรงได้เห็นว่ามีรถวิ่งสวนมาก็กระพริบไฟใส่เพื่อเป็นการขอทาง ไม่มีเจตที่จะหนีแต่อย่างใดพอกลับมาถึงบ้านได้เล่าให้ภรรยาและลูกๆฟังถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทุกคนรู้สึกตัวใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทุกคนหารือกันแล้วว่าจะเข้ามาแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อความบริสุทธิใจและยอมรับผิดและอยากขอโทษสังคมและคู่กรณีด้วยตนไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้คนอื่นเดือดร้อน นางทอง วาจาตรง อายุ64 ปี ภรรยานายสุรชัยกล่าวว่าพอได้ฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ปรึกษากับลูกๆว่าต้องรีบไปพบตำรวจเพื่อขอยอมรับผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนครอบครัวทุกคนนอนไม่หลับเมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ร.ต.อ.สุระชัย คำพลงามรองสารวัตรสองสวนจึงได้ติดต่อไปหา นส.ปวริศา ลิพวงษาทอง เจ้าของคลิปและผู้เสียหาย คู่กรณีมาพบเพื่อตกลงกันกับเรื่องที่เกิดขึ้นโดยนส.ปวริศาได้ขับรถเก๋งมาสด้าทะเบียนกค 808 ปจ มาให้พนักงานสอบสวนดูเป็นหลักฐานพนักงานสอบสวนได้ให้ทั้งสองเล่าเรื่องราวที่เกิดให้ฟังอย่างละเอียดเพื่อที่จะตกลงยินยอมชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ฟังเรื่องราวจากปากนายสมจิตร์และบอกว่านายสมจิตร์เป็นฝ่ายผิดกฎจราจรคงต้องเสียค่าปรับตามกฎหมายจราจร ซึ่งนายสมจิตร์ยินดีรับผิดตามกฎหมายจราจรแต่โดยดีนส.ปวริศาได้เรียกค่าเสียหายและค่าเสียโอกาสในการทำงานธุรกิจส่วนตัว50,000บาทฝ่ายนายสมจิตร์ขอต่อรอง40,000 บาทเพราะไม่มีเงินตามที่เรียกมาเพราะอายุมากแล้วไม่มีอาชีพนส.ปวรศาถามต่อหน้าพนักงานสอบสวนว่าถ้าไม่ได้ออกมารับผิดแทนใครก็พอที่จะยอมให้อภัยได้และยอมลดให้เพราะมีความจริงใจและยอมรับผิดแบบลูกผู้ชายและคนโต ซึ่งทั้งสองฝ่ายยอมตกลงตามที่บอกมาพนักงานสอบสวนจึงลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อเป็นหลักฐาน.ภาพ/ข่าว:ทองสุขสิงห์พิมพ์

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีหนุ่มขับฮอนด้าออกจากปั้มมอเตอ...

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีหนุ่มขับฮอนด้าออกจากปั้มมอเตอร์ไซค์ซิ่งชนหวิดดับ

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีหนุ่มขับรถยนต์ออกจากปั้มมอเตอร์ไซค์ซิ่งวิ่งมาชนเจ็บสาหัส

วันอังคารที่29พฤษภาคม2561เมื่อเวลา 20.30 น. ร.ต.อ.กิตติศักดิ์สินทร รองสารวัตรสอบสวน สภ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากกู้ภับร่วมกตัญญู ว่าเกิดอุบัติเหตุรถชนกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหลังได้รับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุที่เกิดเหตุหน้าปั้มน้ำมันเชลครองรั้ง 304 ต.กรอกสมบูรณ์อ.ศรีมหาโพธิจ.ปราจีนบุรี พบรถยนต์เก๋งฮอนด้าสีขาวหมายเลขทะเบียน กพ 3168เชียงราย จากการสอบถามนายนพดล ฐาวดีอายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่18/4 ม.1 ต.บึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เล่าว่าตนกับแฟนขับรถมาจากจังหวัดนครราชสีมา พอมาถึงปั้มน้ำมันเชลแวะเติมน้ำมัน พอออกจากปั้มจะขึ้นถนนสายหลักขณะรถเข้าเกียร์ 2 ทันใดน้ันได้ยินเสียงดังโครมข้างรถของตน และเห็นรถจักรยานยนต์วิ่งมาชนกระจกข้าง คนขับกระเด็นไปกระแทกพื้นอย่างแรงนอนแน่นิ่งอยู่กลางถนนใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ยี่ฮ้อฮอนด้าเวฟสีดำ-แดง ทะเบียนป้ายแดง 2567 ใกล้กันมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชายนอนนิ่งอยู่บนถนน ทราบชื่อในเวลาต่อมาคือนายเทพรส จรรยาดี อายุ41 ปี อยูาบ้านเลขที่ 45/1 ม.8 ต.วัดโบสถ์อ.เมือง. จ.ปราจีนบุรี ได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณก้านคอและศรีษะ กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลศรีมหาโพธิ  สาเหตุน่าจะเกิดจากรถบนต์เก๋งออกจากปั้มน้ำมันดังกล่าวพอหักขึ้นถนนสายหลักมองไม่เห็นรถจักรยานยนต์คันดังกล่าววิ่งมาทางตรงจึงเกิดอุบัติเหตุขึ้นดังกล่าว.ภาพ/ข่าว:ทองสุขสิงห์พิมพ์

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีเวียนเทียนวัดใหม่นาบุญวันวิสา...

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีเวียนเทียนวัดใหม่นาบุญวันวิสาขบูชาคึกคัก

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีเวียนเทียนวันวิสาขบูชาคึกคัก

วันอังคารที่29พฤษภาคม2561พุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดปราจีนบุรี ร่วมกิจกรรมเวียนเทียนในวันวิสาขบูชา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 จังหวัดปราจีนบุรี โดยผู้ว่าราชการจังหวัด นายสุริยะ อมรโนจน์วรวุฒิ และส่วนราชราช คณะสงฆ์จังหวัดปราจีนบุรีนายกอบจ.ร่วมและประชาชนอำเภอศรีมหาโพธิร่วมกิจกรรมเวียนเทียนที่วัดใหม่กรงทอง และบรรยากาศตามวัดทั่วไปมีประชาชนร่วมเทียนเทียนกันอย่างคึกคักที่วัดใหม่นาบุญ ม. 3ต.กรอกสมบูรณ์อ.ศรีมหาโพธิจ.ปราจีนบุรี มีพุทธศาสนิกชนออกมาร่วมเวียนเทียนกันอย่าเนืองแน่นกว่า 300 คนเช่นทุกปีวันวิสาขบูชา นับว่าเป็นวันที่มีความหมายสำคัญสำหรับพุทธศาสนิกชนทุกคน ซึ่งพระสัมมาสำพุทธเจ้า ทรงประสูตร ตรัสรู้ อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จเข้าสู่ปรินิพพาน เป็นวันที่มีการทำพิธีพุทธบูชาเพื่อน้อมรำลึกถึงพระวิสุทธิคุณ พระปัญญาธิคุณ ของพระสัมมาสำพุทธเจ้าที่มีต่อพุทธศานิกชนที่น่าอัศจรรย์ทั้ง 3 ประการที่มาบังเกิดในวันเดียวกัน วันวิสาขบูชาจึงเป็นวันสำคัญทางศาสนาของชาวพุทธพึงปฎิบัติในวันวิสาขบูชาได้แก่ทำบุญใส่บาตรและร่วมเวียนเทียนรอบพระอุโบสถในตอนค่ำเพื่อระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นส.นิด แรกชำนาญ ได้กล่าวว่ามาเวียนเทียนทุกปีการเวียนเทียนเป็นประเพณีของชาวพุทธมานานแล้ว ถือเป็นการปฎิบัติธรรมทำบุญครั้งหนึ่ง นางภัทรา สีสมบูรณ์ พาสมมีชาวเดนมาร์กและรอบครัวมาร่วมเวียนเทียนในครั้งนี้ด้วย.ภาพ/ข่าว:ทองสุขสิงห์พิมพ์

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีตะลึงพบค้างคาวแม่ไก่นับ1,000 ...

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีตะลึงพบค้างคาวแม่ไก่นับ1,000 ตัว กลางป่าชุมชุน

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีตะลึงพบค้างคาวแม่ไก่นับ1,000 ตัว กลางป่าชุมชุน

วันอังคารที่28พฤษภาคม2561นายประเดช วงศ์ศรีแก้วผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.20 ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรีจ.ปราจีนบุรี ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่าพบค้างคาวแม่ไก่หนึ่งฝูงใหญ่เป็นจำนวนมากกว่า 1,000ตัวมาอาศัยอยู่ในป่าชุมชนบ้านท่าข่อยและพื้นที่ของประชาชนกว่า 100ไร่ท้ายหมู่บ้าน นายประเดชกล่าวว่าตนพบเห็นฝูงค้างคาวแม่ไก่ฝูงใหญ่นี้มานานแล้วและเท่าที่ดูมาหลายวันที่ผ่านมาเห็นค้างคาวแม่ไก่ฝูงนี้คุ้นคนมาก ตนเองแอบดูมานานหลายวันแล้ว และได้ไปปรึกษากับนายชาญชัยคำดี ผู้ใหญ่บ้าน ม.14เมืองเก่า ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ ม.14 เล่าให้นายชาญชัยฟัง หลังจากที่ทั้งสองคุยกันแล้วว่าน่าจะหาทางป้องกันคนที่จะเข้าไปยิงค้างคาวแม่ไก่ฝูงนี้ ก่อนหน้านี้มาชาวบ้านบางคนได้แอบเข้ามายิงค้างคาวแม่ไก่ไปกินบ้าง ขณะนี้เร่งประชาสัมพันธ์ให้ลูกบ้านทั้ง2 หมู่และพื้นที่ใกล้เคียงทราบไม่ให้ยิงค้างคาวแม่ไก่ ค้างคาวแม่ไก่ฝูงนี้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองที่หาดูยากมากแล้วถือเป็นสิ่งที่ดีมีคุณค่าในป่าชุมชนใกล้บ้านที่มีสัตว์ป่าที่หาดูยากมาอาศัยอยู่ในป่าชุมชนแห่งนี้ หากว่าค้างคาวฝูงนี้อาศัยอยู่ที่นี่นานและเป็นถิ่นฐานอยู่อาศัยถือว่าเป็นสมบัติที่มีค่ามาก ลูกหลานบางคนยังไม่เคยเห็นค้างคาวแม่ไก่ฝูงใหญ่ตัวเป็นหากอยากดูก็สามารถมาดูได้เลย หรือกลุ่มต่างๆอยากจะมาเรียนรู้ดูวิถีธรรมชาติของสัตว์ป่าหายากก็มาดูมาชมได้ที่นี่ และเห็นว่าควรอนุรักษ์ไว้เพื่อชนรุ่นหลังไว้ได้ดูที่ผ่านมาค้างคาวแม่ไก่ฝูงนี้มีแหล่งอาหารอย่างดีอยู่ติดแควพระปรงท้องทุ่งนาและป่าไม้เป็นที่อยู่อาศัย  จึงอยู่ที่นี่มานานและได้พาผู้สื่อข่าวเข้าไปดูค้างคาวแม่ไก่ถึงที่ซึ่งพบว่าในป่าชุมชนนี้มีค้างคาวแม่ไก่ฝูงใหญ่มาอาศัยอยู่ในป่านี้จริง และรู้ว่าค้างคาวแม่ไก่อยู่กันอย่างมีความสุข ป่าชุมนี้ค่อนข้างสมบูรณ์มากมีพืชผักของป่าจำพวกเห็ดขึ้นตาธรรมชาติและของดีมีค่าอยู่ในป่าแห่งนี้มากมายหลายชนิดซึ่งประชาชนในพื้นที่น่าจะช่วยกันอนุรักษ์ และดูแลไว้ให้ดี  ผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทั้งสองกล่าวว่าควรจะช่วยกันอนุรักษ์สัตว์หายากไว้ให้ดีอนาตตน่าจะมีอะไดีๆตามมาในหมู่บ้านแห่งนี้ สอบถามข้อมูลได้ที่ ผู้ใหญ่ชาญชัย คำดี 086-022-0156 ผู้ช่วยประเดชวงศ์ศรีแก้ว 080-634-3188

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีฮือฮาครูอัตราจ้างพูดคุยสอนภาษ...

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีฮือฮาครูอัตราจ้างพูดคุยสอนภาษาอังกฤษกับเด็ก

ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีฮือฮาครูอัตราจ้างพูดคุยสอนภาษาอังกฤษกับเด็กทั้งในและนอกห้องเรียน

วันจันทร์ที่28พฤษภาคม2561การกรณีที่โลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพครูสาวพูดคุยทักทายกับเด็กนักเรียนชั้นป.3 ในการพูดภาษาอังกฤษทั้งก่อนเข้าห้องเรียนและนอกเวลาเรียนจนโด่งดังมียอดกดแชร์ล้านกว่าครั้ง ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่โรงเรียนบ้านหนองจิก ต.วังดาลอ.กบินทร์บุรีจ.ปราจีนบุรี ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นส.ปฐมาวดีดอนหัวรอ ผู้ปกครองนักเรียนชั้นป.3 โดยนส.ปฐมาวดี กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าเพิ่งทราบข่าวทางโลกออนไลน์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ก่อนหน้าที่มาส่งลูกสาวที่โรงเรียนก็รู้ว่าคุณครูประจำชั้นมักจะพูดคุยและสอนกับเด็กเป็นภาษาอังกฤษทุกวันทั้งในเวลาเรียนกับก่อนและหลังเรียนเพื่อฝึกหัดให้เด็กมีความชำนาญในการพูดคุยและเรียนภาษาอังกฤษอย่างถูกต้องและชัดเจนเพื่ออนาคตของเด็กนักเรียน ตนในฐานะผู้ปกครองเห็นแล้วรู้สึกดีใจที่ครูให้การใส่ใจในการเรียนการสอนแก่เด็กๆเป็นสิ่งที่ดีและมีค่าแม้จะเพิ่งสอนมาไม่กี่เดือนแต่ก็มีค่ามากและอยากให้สอนต่อไปดญ.ปลาเก๋าหรือดญ.ศิลามณี ธรรมมิ อายุ 8ขวบ นักเรียนชั้นป.3โรงเรียนบ้านหนองจิกพูดคุยทักทายเป็นภาษาอังกฤษได้ดีมากและยังบอกอีกว่ารู้สึกดีใจที่ได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษกับคุณครูและเพื่อนๆ คุณครูสอนเก่งมากคนไหนยังพูดไม่เก่งก็จะแนะนำและให้กำลังใจจนเด็กๆทุกคนเริ่มเก่งในการพูดคุยภาษาอังกฤษมากขึ้นนักเรียนชั้นป.3 มีนักเรียนทั้งหมด 17 คนแต่ละคนกล่าวทักทายเป็นภาษาอังกฤษเก่งมากทุกคนพูดคุยแลกเปลี่ยนคำถามคล่องแคล่วมากผู้สื่อข่าวได้พบปะพูดคุยกับ(ครูอร)นส.อรจิรายินดี ครูประจำชั้นป.3ครูอรกล่าวว่ารู้สึกตกใจมากที่ตนเองถูกนำเรื่องการเรียนการสอนลงในโลกออนไลน์ การเรียนการสอนภาษาอังกฤษครูอรกล่าวว่า ได้มีแนวคิดมาจาก ผอ.นางปรางสินี ช่างฉาย โดยผอ.ให้แนวทางการเรียนการสอนมาว่าในปัจจุบันนี้ประเทศเราจัดอยู่ในอาเซี่ยล ดังนั้นจึงเห็นว่าน่าจะมีการพัฒนาเสริมสร้างการเรียนการสอนภาษาอังกฤษกับเด็กตั้งแต่เล็กจะได้มีความรู้ความชำนาญในการพูดภาษาอังกฤษ เน้นวิสัยทัศน์ในการมองการไกลให้ครูนำมาใช้ในการโฮมรูม และการทักทาย ซึ่งตั้งแต่ละวันจะทักทายแบบไหนทำทุกวัน ครูอรกล่าวว่าส่วนตัวในความคิดอ้อมกอดสื่อความรักความอบอุ่น ซึ่งตอนเด็กเราก็โหยหามาตลอดแต่ไม่เคยได้รับ ความสุขที่ได้อยู่กับเด็กๆคือความสุขที่จะหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว จะสอนให้เด็กๆมีความกตัญญูเพราะฐานพื้นฐานของคนดีทุกวันนี้เริมหายากทุกทีเด็กคือผ้าขาวเราต้องรักษาผ้าผืนนี้ไว้นานๆผอ.ปรางสินี ช่างฉาย ได้กล่าวว่าเป็นนโยบายของผอ.เขตประถมศึกษาเขต 2 ผอ.ประกฤษพุ่มพฤกษ์ เน้นให้เรียนเรียนการสอนภาษาต่างประเศษควบคู่ไปด้วยให้เด็กๆทุกพื้นที่มีความชำนาญการใช้พูดภาษาอังกฤษให้มากขึ้น โรงเรียนบ้านหนองจิกมีนักเรียนตั้งแต่อนุบาลถึงประถมปีที่ 6 ซึ่งทางโรงเรียนเน้นการเรียนการสอนภาษาอังกฤษตั้งแต่อนุบาลอย่างน้อยวันละครั้งก่อนเรียนและก่อนกลับบ้าน ผลตอบรับที่ตามมาครูอรกล่าวว่ามีผู้ปกครองให้กำลังใจมากขึ้นและสนับสนุนให้สอนบุตรหลานต่อไปจนกว่าจะเรียนจบ ผอ.ได้กล่าวว่าอยากมีครูเพิ่มอีก1ท่านเพื่อที่จะได้มาสับเปลี่ยนกับครูอรจะได้สอนภาษาอังกฤษแก่เด็กนักเรียนครบทุกชั้นและอยากให้ครูอรได้สอนเด็กที่นี่ตลอดไป.ภาพ/ข่าว:ทองสุขสิงห์พิมพ์