วันศุกร์ที่6กรกฎาคม2561เมื่อ เวลา 09.00น. ผศ.ดร.จิระ บุรีคำ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เปิดเวทีเสวนาโต๊ะกลมครั้งที่ 1 เรื่อง “ ความก้าวหน้าอุตสาหกรรมในเขตเศรษฐกิจพิเศษกาญจนบุรีและทวาย ” จากการร่วมกันของคณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่กับสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมกระทรวงอุตสาหกรรม และได้รับเกียรติจากนายเฉลิมฉัตร จันทร์อินทร์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรี นายนิพัฒน์ เจริญกิจการ อดีตประธานหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมเสวนาในครั้งนี้ด้วย นอกจากนี้ยังมีผู้เข้าร่วมเสวนาจากหลายหน่วยงาน รวมถึงผู้ประกอบการ เข้าร่วมจำนวนมาก ณ ห้องประชุมสังขละบุรี 1 โรงแรมริเวอร์แคว อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรีการเสวนาในครั้งนี้เป็นการนำเสนอผลงานการศึกษาการสำรวจเส้นทางการค้าและความก้าวหน้าของเขตเศรษฐกิจพิเศษกาญจนบุรีและทวายโดยคณะนักวิจัย การเสวนาเรื่อง "ความก้าวหน้าโอกาสและความท้าทายของอุตสาหกรรมในเขตเศรษฐกิจพิเศษกาญจนบุรีและถวาย และ เปิดโอกาสในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้เข้าร่วมเสวนาเขตเศรษฐกิจพิเศษคือเขตพื้นที่ ที่จัดตั้งขึ้นเป็นการเฉพาะตามกฎหมายเพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมสนับสนุนและอำนวยความสะดวกรวมทั้งให้สิทธิพิเศษบางประการในการดำเนินกิจการต่างๆเช่นการอุตสาหกรรมการพาณิชยกรรมการบริการหรือกิจการอื่นใดที่เป็นประโยชน์แก่เศรษฐกิจของประเทศ ประโยชน์ที่จะได้รับจากการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ ส่งเสริมการลงทุนในประเทศเพราะประเทศเป็นศูนย์กลางของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ทั้งยังเป็นการส่งเสริมการส่งออกช่วยลดต้นทุนในการประกอบการต่างๆเช่นค่าแรงราคาถูกจากประเทศเพื่อนบ้านส่งเสริมให้มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆในการผลิตสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาดำเนินการในประเทศไทยและยังเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าของประเทศไทยและประเทศต่างๆไปสู่ภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศอื่นๆ นอกจากนี้ยังเกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นในภูมิภาคต่างๆของประเทศไทยที่มีการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษรวมถึงการขยายตัวของอสังหาริมทรัพย์ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อมาลองรับที่อยู่อาศัยของแรงงานใหม่ในพื้นที่จากการเสวนาโต๊ะกลมในครั้งนี้ไทย เมียนมา และอาเซียนจะได้ประโยชน์คือเขตเศรษฐกิจพิเศษและท่าเรือน้ำลึกทวายจะเปิดช่องทางโลจิสติกส์ฝั่งตะวันตกของไทยเชื่อมโยงแนวระเบียง เศรษฐกิจตอนใต้ระหว่างเมียนมา ไทย กัมพูชาเวียดนาม สู่ตลาดฝั่งตะวันตกโดยไม่ต้องผ่านช่องแคบมะละกาซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาและต้นทุนในการค้าขายการขนส่งระหว่างประเทศได้อย่างมาก ทั้งยังส่งผลให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ในภูมิภาคทั้งเป็นโอกาสขยายฐานการผลิตเชื่อมโยงและเสริมกิจกรรมกับพื้นที่เศรษฐกิจหลักของไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาพื้นที่รองรับอุตสาหกรรมขั้นต้นหรืออุตสาหกรรมหนักเช่นอุตสาหกรรมเหล็กครบวงจรให้เป็นแหล่งผลิตวัตถุดิบสำคัญเพื่อป้อนเข้าสู่วงจรการผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย อีกทั้งเปิดโอกาสย้ายฐานการผลิตอุตสาหกรรมใช้แรงงานเข้มข้นของผู้ประกอบการไทยเนื่องจากขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในปัจจุบันอยู่ในภาวะที่ต้องปรับตัวจากค่าจ้างแรงงานที่สูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ปัญหาขาดแคลนแรงงาน การผลิตวัตถุดิบมีต้นทุนสูงและการสิ้นสุดของสิทธิประโยชน์ส่งออก GSP ของประเทศไทย โดยการย้ายฐานการผลิตสู่เขตเศรษฐกิจพิเศษทวายจะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถลดต้นทุนในการผลิตและใช้สิทธิประโยชน์จากระบบสิทธิพิเศษทางศุลกากร (GSO) ของสหภาพยุโรปโดยการผลิตและส่งออกจากเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายใน เมียนมาอีกด้วย
วันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2561
ข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีคณะเศรษฐศาสตร์ มช.ร่วมกับ สศอ.จัดเสวนาโต๊ะกลมครั้งที่ 1 "ความก้าวหน้าโอกาสและความท้าทายของอุตสาหกรรมในเขตเศรษฐกิจพิเศษกาญจนบุรีและทวาย
วันศุกร์ที่6กรกฎาคม2561เมื่อ เวลา 09.00น. ผศ.ดร.จิระ บุรีคำ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เปิดเวทีเสวนาโต๊ะกลมครั้งที่ 1 เรื่อง “ ความก้าวหน้าอุตสาหกรรมในเขตเศรษฐกิจพิเศษกาญจนบุรีและทวาย ” จากการร่วมกันของคณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่กับสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมกระทรวงอุตสาหกรรม และได้รับเกียรติจากนายเฉลิมฉัตร จันทร์อินทร์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรี นายนิพัฒน์ เจริญกิจการ อดีตประธานหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมเสวนาในครั้งนี้ด้วย นอกจากนี้ยังมีผู้เข้าร่วมเสวนาจากหลายหน่วยงาน รวมถึงผู้ประกอบการ เข้าร่วมจำนวนมาก ณ ห้องประชุมสังขละบุรี 1 โรงแรมริเวอร์แคว อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรีการเสวนาในครั้งนี้เป็นการนำเสนอผลงานการศึกษาการสำรวจเส้นทางการค้าและความก้าวหน้าของเขตเศรษฐกิจพิเศษกาญจนบุรีและทวายโดยคณะนักวิจัย การเสวนาเรื่อง "ความก้าวหน้าโอกาสและความท้าทายของอุตสาหกรรมในเขตเศรษฐกิจพิเศษกาญจนบุรีและถวาย และ เปิดโอกาสในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้เข้าร่วมเสวนาเขตเศรษฐกิจพิเศษคือเขตพื้นที่ ที่จัดตั้งขึ้นเป็นการเฉพาะตามกฎหมายเพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมสนับสนุนและอำนวยความสะดวกรวมทั้งให้สิทธิพิเศษบางประการในการดำเนินกิจการต่างๆเช่นการอุตสาหกรรมการพาณิชยกรรมการบริการหรือกิจการอื่นใดที่เป็นประโยชน์แก่เศรษฐกิจของประเทศ ประโยชน์ที่จะได้รับจากการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ ส่งเสริมการลงทุนในประเทศเพราะประเทศเป็นศูนย์กลางของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ทั้งยังเป็นการส่งเสริมการส่งออกช่วยลดต้นทุนในการประกอบการต่างๆเช่นค่าแรงราคาถูกจากประเทศเพื่อนบ้านส่งเสริมให้มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆในการผลิตสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาดำเนินการในประเทศไทยและยังเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าของประเทศไทยและประเทศต่างๆไปสู่ภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศอื่นๆ นอกจากนี้ยังเกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นในภูมิภาคต่างๆของประเทศไทยที่มีการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษรวมถึงการขยายตัวของอสังหาริมทรัพย์ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อมาลองรับที่อยู่อาศัยของแรงงานใหม่ในพื้นที่จากการเสวนาโต๊ะกลมในครั้งนี้ไทย เมียนมา และอาเซียนจะได้ประโยชน์คือเขตเศรษฐกิจพิเศษและท่าเรือน้ำลึกทวายจะเปิดช่องทางโลจิสติกส์ฝั่งตะวันตกของไทยเชื่อมโยงแนวระเบียง เศรษฐกิจตอนใต้ระหว่างเมียนมา ไทย กัมพูชาเวียดนาม สู่ตลาดฝั่งตะวันตกโดยไม่ต้องผ่านช่องแคบมะละกาซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาและต้นทุนในการค้าขายการขนส่งระหว่างประเทศได้อย่างมาก ทั้งยังส่งผลให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ในภูมิภาคทั้งเป็นโอกาสขยายฐานการผลิตเชื่อมโยงและเสริมกิจกรรมกับพื้นที่เศรษฐกิจหลักของไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาพื้นที่รองรับอุตสาหกรรมขั้นต้นหรืออุตสาหกรรมหนักเช่นอุตสาหกรรมเหล็กครบวงจรให้เป็นแหล่งผลิตวัตถุดิบสำคัญเพื่อป้อนเข้าสู่วงจรการผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย อีกทั้งเปิดโอกาสย้ายฐานการผลิตอุตสาหกรรมใช้แรงงานเข้มข้นของผู้ประกอบการไทยเนื่องจากขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในปัจจุบันอยู่ในภาวะที่ต้องปรับตัวจากค่าจ้างแรงงานที่สูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ปัญหาขาดแคลนแรงงาน การผลิตวัตถุดิบมีต้นทุนสูงและการสิ้นสุดของสิทธิประโยชน์ส่งออก GSP ของประเทศไทย โดยการย้ายฐานการผลิตสู่เขตเศรษฐกิจพิเศษทวายจะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถลดต้นทุนในการผลิตและใช้สิทธิประโยชน์จากระบบสิทธิพิเศษทางศุลกากร (GSO) ของสหภาพยุโรปโดยการผลิตและส่งออกจากเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายใน เมียนมาอีกด้วย
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น