วันจันทร์ที่20สิงหาคม2561ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดราษฎร์เจริญศรัทธาธรรมต.กรอกสมบูรณ์อ.ศรีมหาโพธิจ.ปราจีนบุรี
ซึ่งทราบว่ามีคนขอต้นอังกาบหนูไปต้มกินหลายสิบคนโดยรองเจ้าอาวาสถ่ายภาพญาติโยมที่มาขอต้นอังกาบหนูลงเฟสบุู๊ค
ซึ่งเจ้าอาวาสวัดรองเจ้าอาวาสวัดติดกิจนิมนต์ นอกพื้นที่
ทุกคนที่มาขอต้นอังกาบหนูวานนี้ทั้งวันและมาจากทั่วสารทิศ
อักทั้งเก็บใบฝากส่งต่างจังหวัดให้ญาติทางภาคเหนือ หลังจากที่มีกระแสข่าวฮือฮาที่วัดโบสถ์(เมืองโบราณบางขลัง)
อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย มีชาวบ้านเล่าลือกันว่ามีต้นไม้รักษามะเร็งได้และหายขาด
โดยพระครูพัฒน์สุตาพร เจ้าอาวาสวัดโบสถ์ กล่าวว่าเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมาพี่ชายได้ป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่ลำคอ
มีแผลเน่าพูดไม่ได้ ญาติทุกคนคิดว่าตายแน่แต่ก็มีชีวิตรอดมาได้ถึงทุกวันนี้
หลังจากที่ให้กินน้ำต้มใบอังกาบหนูทางสายยางผ่านจมูก เช้า-เย็นเพียงแค่ 3 วัน
แผลที่เป็นหนองก็แห้งตกสะเก็ด พอวันที่ 15 ช่องที่โพลงจมูกก็หายสนิทกระทั่ง 6
เดือนผ่านไปร่างกายของพี่ชายหายเป็นปกติและมีชิวิตอยู่ปัจจุบันนี้อายุ 52 ปีแล้วครั้งแรกที่รู้จักยาตัวนี้เพราะว่ามีชาวบ้านที่ป่วยเป็นมะเร็งกระดูกระยะที่
3 ได้ฝันเห็นพญานาคนอนขดอยู่ในมณฑปโบราณเมืองบางขลัง ตรงกลางลำตัวมีใบไม้เท่าฝ่ามือบอกว่าให้เอาไปยาตัวนี้ไปกินแล้วจะหายโรค
จึงถามว่าในมณฑปนี้มียาสมุนไพรอะไรมั้ย อาตมาก็ไม่มีแต่ตรงทิศใต้ของมณฑป
คือค้นอังกาบหนูลองไปดูพบว่ามันคล้ายใบไม้ใบฝัน แล้วเขาก็เด็ดไปต้มกินปรากฎว่ากินไป
2 เดือนก็หายจากโรคและมีชีวิตอยู่ทุกวันนี้ พอหลายคนทราบข่าวก็ลองนำไปต้มกินตามกันและผู้ที่ป่วยทั้ง
13 คน หลังจากที่เป็นข่าวโด่งดังทั่วประเทศ ได้มีญาติโยม อ.ศรีมหาโพธิจ.ปราจีนบุรี
ทราบว่าที่วัดราษฎร์เจริญศรัทธาธรรม มีต้นอังกาบหนูซึ่งทางวัดทำสมุนไพรอยู่ก่อนนี้แล้ว
พากันมาขอต้นใบอังกาบหนูไปปลูกที่บ้านและขอใบไปต้มกินกันคักคัก จนแทบจะไม่เหลือแล้ว
รองเจ้าอาวาสจึงถ่ายภาพลงเฟสบุ๊คให้ลูกศิษย์และญาติโยมรู้ว่าที่วัดนี้ก็มีต้นอังกาบหนูอยู่เหมือนกัน
อย่างไรก็ตามจากข้อมูลนี้ระบุว่าใบอังกาบหนูและรากลำต้นต้นมีสรรพคุณมากมาย ทั้งช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย
ลดไข้ แก้หวัด ขับเสมหะ แก้ปวดฟัน รักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน แก้หูอักเสบ แก้ท้องผูก
แก้พิษงู รักษาโรคคัน กลาก เกลื้อน แก้ฝีอัมพาต โรคปวดตามข้อและปวดหลัง
แต่ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่ารักษาโรคมะเร็งได้จริงหรือไม่นอกจากผู้ป่วยที่มีประสบการณ์โดยตรงเท่านั้น
จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและเร่งทำการวิจัยต่อไป ผู้สื่อข่าวได้พบกับนายชาติชาย
กุดตะวัน มาจากสระแก้วพร้อมภรรยาและญาติที่ป่วยโดยนายชาติชายกล่าวว่าทราบข่าวทางเฟสบุ๊คที่รองเจ้าอาวาสลงเมื่อวานก่อนนี้
รุ่งขึ้นจึงเดินทางมาขอต้นอังกาบหนูจากรองเจ้าอาวาสไปไว้กินรักษาโรคมะเร็ง และเพื่อนฝูงบอกให้ตนมาขออีกจึงเดินทางมาขอต้นอังกาบหนูไปไว้กินและขอต้นไปปลูกที่บ้านนายชาติชายกินใบสดๆให้เห็นว่ากินได้มีรสชาติเฝื่อนๆออกขมนิดๆ
ต่อมามีชาวบ้านพากันออกมาดูต้นอังกาบหนูที่วัดนับสิบๆคนทยอยมาดูและขอไปปลูกไปฝากญาติ
พระวิษณุ ถิระจัดโต พระลูกวัดกล่าวว่าเมื่อราว3 ปีที่ผ่านมาตอนนั้นตนยังไม่ได้บวชเป็นพระติดตามเจ้าอาวาสวัดไปทำภาระกิจต่างจังหวัด
เจ้าอาวาสให้เอามาปลูกไว้ที่วัดตนได้นำมาปลูกและไม่เคยรู้เลยว่าอังกาบหนูนี้มีพรรพคุณรักษาโรคได้
ตนเพิ่งก็เพิ่งทราบจากข่าวไม่กี่วันที่ผ่านมาที่สุโขทัยและวานนี้มีโยมพูดกันและมาขอไปปลูกไปกินเป็นจำนวนมาก
ต้นอังกาบหนูที่ปลูกไว้มีอยู่ราว50 ตารางวา ต้นอังกาบหนูเป็นพืชล้มลุกลำต้นเป็นข้อๆตรงข้อจะมีตาสามารถแตกรากออกได้ในต้นเดียวกิ่งเดียวคล้ายพลูกินหมาก
หรืออ้อยใบเรียวยาวสีเขียวสูง 40-50 ซม.ซึ่งทั้งวันมีคนมาขอต้นอังกาบหนูไปปลูกทั้งวัน.ภาพ/ข่าว:ทองสุขสิงห์พิมพ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น