ไอซ์หีบเหล็ก วันที่ 18 มี.ค.63
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่ศาลอาญาธนบุรี ถ.บางบอน-เอกชัย
ศาลมีคำพิพากษาคดีไอซ์ หีบเหล็ก ครอบครองยาบ้า-กัญชา หมายเลขดำ ย.199/2563
ที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายอภิชัย หรือไอซ์ องค์วิศิษฐ์ อายุ 40 ปี
ฉายา "ไอซ์ หีบเหล็ก" ที่อยู่ 58 ซ.เพชรเกษม 47 แขวง-เขตบางแค กทม.
จำเลย ในความผิดฐานมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)
ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต , มียาเสพติดให้โทษประเภท
(กัญชา)
ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีอาวุธและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32,33,371
พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 ซึ่งในชั้นสอบสวน นายอภิชัย
ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาโดยชั้นพิจารณาคดีจำเลยก็ให้การรับสารภาพ
ซึ่งระหว่างพิจารณาคดี นายอภิชัย หรือไอซ์ หีบเหล็ก จำเลย ไม่ได้ประกันตัว วันนี้
(18 มี.ค.) ศาลได้เบิกตัวจำเลยจากเรือนจำพิเศษธนบุรี มาฟังคำพิพากษาขณะที่
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว พิพากษาว่า จำเลย กระทำผิด พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ
พ.ศ.2522 มาตรา15 วรรคสาม (2), 26/3 วรรคหนึ่ง 66 วรรคสอง , 76
วรรคหนึ่ง พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 7 , 72 วรรคสามให้รียงกระทงลงโทษ
จำเลยฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ให้จำคุก 13 ปี และปรับ 750,000
บาท , ฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตปรับ
3,000 บาท โดยให้เพิ่มโทษจำเลยกึ่งหนึ่ง ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา
97 ด้วย ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายจึงเป็นจำคุก 19 ปี 6 เดือน
และปรับ 1,125,000 บาท , ฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นปรับ
4,500 บาทส่วนฐานมีอาวุธปืนของผู้อื่นซึ่งได้รับใบอนุญาต ให้จำคุก 1 ปี
โดยให้เพิ่มโทษจำเลย 1 ใน 3 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92
ในความผิดฐานนี้ด้วยเป็นจำคุก 1 ปี 4 เดือนโดยรวมจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 20 ปี 10
เดือน และปรับ 1,129,500 บาท
ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกเป็นเวลา
10 ปี 5 เดือนและปรับ 564,750 บาท หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้จัดการด้วยการกักขังแทนค่าปรับตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 29,30 กรณีต้องกักขังแทนค่าปรับให้กักขังเกิน 1 ปีแต่ไม่เกิน 2 ปี
และให้ริบเมทแอมเฟตามีนของกลางที่เหลือจากการตรวจพิสูจน์ด้วยผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับ
นายอภิชัย ถูกพนักงานสอบสวนมายื่นคำร้องฝากขังคดีครอบครองยาบ้า-ยาไอซ์
เเละผู้ต้องหานี้ยังได้มีความผิดเกี่ยวกับการฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยการซ่อนเร้นศพ
ซึ่งพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายนี้โดย
นายอภิชัย มีพฤติการณ์มีผู้หญิงมาอยู่กินนอนที่บ้านของผู้ต้องหาเป็นประจำ
กระทั่งเดือน ก.ค.62 มีพยานเห็นผู้ต้องหาทำร้ายร่างกาย น.ส.กิ๊ก
ด้วยเหล็กแป็บและใส่กุญแจมือ
บังคับให้รับประทานข้าวให้หมดหากไม่หมดก็จะถูกทำร้ายร่างกาย
และให้คลานเข้าไปนอนในหีบเหล็กและปิดฝาสนิทไม่มีรูระบายอากาศ
น.ส.กิ๊กได้ร้องขอความช่วยเหลือแต่กลับเปิดเพลงเสียงดัง
หลังจากนั้นนายเฉลิมชนม์ก็กลับที่พัก
จนเช้าวันต่อมานายเฉลิมชนม์ได้เข้ามาหาผู้ต้องหาที่บ้านเพื่อทานข้าวและพบว่า
น.ส.กิ๊ก เสียชีวิตแล้ว
นายเฉลิมชนม์และผู้ต้องหาจึงช่วยกันนำศพใส่ในถุงดำและนำไปขุดดินฝังไว้ที่บริเวณหลังบ้านของผู้ต้องหาเมื่อทราบข้อมูลแล้ว
ชุดจับกุมจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายค้นบ้านหลังดังกล่าวเพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม
ต่อมาเมื่อวันที่ 9 ม.ค.63 เวลาประมาณ 10.30 น. จึงได้เข้าทำการตรวจค้น พบ
น.ส.นิภาภรณ์ องค์วิศิษฐ์
ยินยอมให้ทําการตรวจค้นและให้การว่าบ้านหลังดังกล่าวนั้นมีผู้ต้องหาซึ่งเป็นหลานชายเป็นผู้ครอบครองและพักอาศัยเพียงผู้เดียวเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเรียกให้เปิดประตู
ปรากฏว่าไม่ยอมเปิดประตู
ประกอบกับการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาจะพกพาอาวุธปืนอยู่ตลอดเวลา
จึงได้ผลักประตูเข้าไปพบว่าหลบอยู่ในห้องน้ำ จึงได้แสดงหมายค้นให้ดูและอธิบายวัตถุประสงค์ให้ทราบและเข้าใจแล้วจึงขอทำการตรวจค้นโดยเป็นผู้นำตรวจค้นห้อง
ซึ่งผลการตรวจค้นพบยาเสพติดของกลางและอาวุธปืนวางอยู่บนเตียงนอนของผู้ต้องหา
ประกอบด้วยยาไอซ์ ชนิดเกล็ดสีขาวบรรจุอยู่ในซองพลาสติก,ยาบ้าชนิดกลมแบนสีส้มบรรจุอยู่ในหลอดพลาสติกใส
, ยาเสพติดให้โทษประเภทกัญชา อาวุธปืนขนาด 9 มม.
ยี่ห้อซีแซด รุ่นรามี่ สีดำ หมายเลขประจำปืน A462642
เครื่องหมายทะเบียน กท5141498 จํานวน 1 กระบอก ราคาประมาณ 40,000 บาท , แม็กกาซีนอาวุธปืนจำนวน
1 อัน , ลูกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 15 นัดโดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตามบันทึกรับสารภาพชุดจับกุมพนักงานสอบสวน
ในข้อกล่าวหาคดีฐาน มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)
ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต , มียาเสพติดให้โทษประเภท
(กัญชา)
ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีอาวุธและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4,7,8,15 วรรคสาม (2), 26,
66 วรรคสอง , 76,102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา
32,33,371 พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 4,7,8 ทวิ, 72,72
ทวิ ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พนักงานอัยการจึงได้เเยกฟ้องคดีนี้มาก่อน
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น