วันจันทร์ที่๕ตุลาคม๒๕๕๘งานเทศกาลโลกของกว่าง
และคืนความสุขให้ประชาชน อำเภอปัว จังหวัดน่านจุดประสงค์จัดงานในครั้งนี้
เพื่ออนุลักษ์วัฒนธรรมประเพณี อำเภอปัว จังหวัดน่านและให้คงอยู่ตลอดไป
การทำกิจกรรมในครั้งนี้ ให้ชาวอำเภอปัว และอำเภอใกล้เคียงได้กล้าแสดงออก สร้างความสามัคคี
และแสดงสินค้ามากมายภายในงาน มีดนตรี มาโชว์แสดง จุดเด่นของงานนี้ก็คือ แมลงด้วงกว่าง
หรือ( แมงด้วงกว่าง)เป็นตะกูล แมลงชนิดปีกแข็งชอบอยู่บนต้นไม้ใหญ่ชอบกินใบไม้และอ้อยด้วงกว่างมีลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากแมลงปีกแข็งจำพวกอื่น
ๆ อย่างเห็นได้ชัด คือ ตัวผู้มีขนาดที่ใหญ่ แลดูบึกบึน
มีปีกที่พัฒนาเป็นเปลือกแข็ง 1 คู่หุ้มลำตัวด้านบนที่นูนอยู่เหมือนสวมชุดเกราะ
มีสีดำคล้ำหรือน้ำตาลเข้มที่เงางาม
ขณะที่บางชนิดอาจมีสีอ่อนกว่าหรือแม้กระทั่งสีทองก็มี มีจุดเด่นที่เห็นได้ชัด คือ
มีอวัยวะบริเวณส่วนหัวที่งอกยาวออกมาคล้ายเขาจำนวนอย่างน้อย 1 คู่
อยู่ด้านบนและด้านล่างของส่วนหัว
ซึ่งจะมีจำนวนและลักษณะสั้น-ยาวแตกต่างกันออกไปตามสกุลและชนิด
ซึ่งพบมากที่สุดได้ถึง 5 เขา ขณะที่ตัวเมียจะมีขนาดเล็กกว่าและไม่มีเขา
หรือมีแต่สั้นกว่ามาก มีผิวลำตัวที่ขรุขระหยาบและมีขีดร่องหรือเรียบกว่า จุดแทง
ที่ส่วนปีกแข็งมาก
ตามลำตัวในบางชนิดมีขนอ่อนคล้ายกำมะหยี่สีเหลืองหรือสีน้ำตาลปกคลุมอยู่บริเวณใต้ท้องทั้งตัวผู้และตัวเมีย
ขาคู่หน้ามีช่องที่อยู่ในแนวขวางสามารถบิดขยับได้ มีหนวดเป็นรูปใบไม้
ด้วงกว่างจะใช้เขานี้ในการต่อสู้ป้องกันตัวและต่อสู้กันเพื่อแย่งตัวเมียในการผสมพันธุ์
ซึ่งอาจจะต่อสู้กันข้ามสายพันธุ์หรือแม้แต่ต่างวงศ์กันได้ เช่น วงศ์ด้วงคีม (Lucanidae)
ที่มีพฤติกรรมคล้ายกัน
โดยจะใช้เขาอันนี้ขวิดและหนีบหรือแม้กระทั่งยกคู่ต่อสู้ให้ลอยพ้นพื้นได้
ซึ่งการต่อสู้ของด้วงกว่างนั้นไม่ดุเดือดจนถึงขั้นบาดเจ็บหรือล้มตายกันไปข้างเหมือนสัตว์ชนิดอื่น
อย่าง ปลากัดหรือไก่ชน แต่อาจจะทำให้เขาหักกันได้(วงจรชีวิต)
ด้วงกว่างทั้งหมดมีวงจรชีวิตที่คล้ายกัน
คือ จะวางไข่และตัวอ่อน คือ
ตัวหนอนและดักแด้ใช้ชีวิตอยู่ในพื้นดินที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธาตุอาหารทางระบบนิเวศ
เช่น มีไม้ผุหรือมูลสัตว์ผสมอยู่ในนั้นเป็นจำนวนมากพอ
ตัวหนอนของด้วงกว่างจะมีขนาดใหญ่และป้อมสั้นกว่าแมลงจำพวกอื่น
มักมีลำตัวสีขาวหรือเหลืองอ่อนจะขดตัวเป็นรูปตัวซี (C) และจะมีความแตกต่างจากตัวหนอนของแมลงจำพวกอื่น
คือ มีส่วนหัวขนาดใหญ่ที่มีสีเข้มกว่าลำตัวเรียกว่าหัวกะโหลก มีกรามหรือมีเขี้ยว
และจะมีรูหายใจที่ข้างลำตัวโดยมีปล้องทั้งหมด 8 ปล้อง ปล้องละคู่
และจะมีขาจริงหลังส่วนหัวด้วยรวม 3 คู่ โดยปกติแล้วจะกินอาหารและอยู่เฉย ๆ
ในดินเท่านั้นจะไม่เคลื่อนไหวเท่าใดนัก จึงมีลำตัวที่ใหญ่
ตัวหนอนจะกินธาตุอาหารต่าง ๆ ในดิน
ขณะเข้าสู่ระยะดักแด้
จนกว่าจะเป็นตัวเต็มวัยผุดขึ้นมาจากดิน กินระยะเวลานานราว 1 ปี
ขณะที่บางชนิดอาจนานกว่านั้น คือ 2-3 ปี
ขณะที่ช่วงระยะเวลาของการเป็นตัวเต็มวัยจะมีอายุเพียง 2-3 เดือนเท่านั้น
แต่บางชนิดอาจอยู่ได้นานถึง 6 เดือนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย
ด้วงกว่างจึงจะอาศัยอยู่ในป่าหรือพื้นที่ที่มีระบบนิเวศที่อุดมเท่านั้น
โดยปกติแล้วจะพบชุกชุมในช่วงฤดูฝน
อันเป็นช่วงที่ตัวเต็มวัยจะผุดขึ้นมาดินและผสมพันธุ์
เมื่อตัวเต็มวัยปริตัวออกจากเปลือกที่เป็นดักแด้จะเริ่มปริจากส่วนหัวก่อน
และจะรูดตัวออกจากทางส่วนปลายท้องคล้ายกับผีเสื้อ
แต่การออกมาของด้วงกว่างนั้นมักวางอยู่พื้นดินเพื่อให้ขยับตัวหรือพลิกตัวคล่ำลงได้ง่ายเพื่อให้ส่วนปีกยืดกางได้เป็นอิสระ
ขณะที่ออกมาระยะแรกตัวจะยังขาวซีด
ซึ่งต้องใช้เวลาอีกนานเป็นวันเพื่อพัฒนาสีและความแข็งของเปลือกลำตัวให้สมบูรณ์
ขณะที่บางชนิดอาจจะอยู่ในเปลือกดักแด้อีกระยะหนึ่ง จึงค่อยผุดขึ้นมา
พฤติกรรมหากินและความผูกพันกับมนุษย์
หากินในเวลากลางคืน
โดยจะกินยางไม้จากเปลือกไม้ของต้นไม้ใหญ่ในป่า
รวมถึงผลไม้หรือพืชบางชนิดเป็นอาหารด้วย จึงจัดเป็นแมลงศัตรูพืชอย่างหนึ่ง
และเหมือนกับแมลงอย่างอื่น คือ เมื่อพบแสงไฟก็จะบินเข้าหา
ด้วงกว่างมีความผูกพันกับมนุษย์มาอย่างยาวนาน
โดยใช้ทำเป็นเครื่องประดับหรือรับประทานเป็นอาหาร
อีกทั้งยังเป็นที่นิยมในการเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงด้วยในหลายพื้นที่
เพราะเหตุที่สามารถต่อสู้กันได้ จนเกิดเป็นเทศกาลหรือประเพณีท้องถิ่น เช่น ที่ประเทศญี่ปุ่นและภาคเหนือของไทย
ขอเชิญชวนมาเที่ยวงานเทศกาลโลกของกว่างและคืนความสุขให้กับประชาชน เหลือ
อีก๓ วันเท่านั้น งานนี้มีดนตรีมีโชว์ต่างๆภายในงานนี้ อย่าพลาดงานนี้นะค่ะ
สนับสนุนภาพโดย
คุณขวัญ
สื่อมวลชนในพื้นที่ อำเภอปัว จังหวัดน่าน
สมาชิกข่าวออนไลน์ประจำอำเภอบ้านผือ
จังหวัดอุดรธานี
ชมรมผู้สื่อข่าวจังหวัดอุดรธานี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น