นายกฯ เรียกถกด่วน 4 เม.ย.นี้ หลังกต.ฝ่าฝืนคำสั่งออกเอกสารให้คนเดินทางเข้าประเทศ แถมดื้อแพ่งก่อม็อบต้าน
จนท.ไม่ยอมกักตัว ยุ่งแล้ว พบ 3 คนมีไข้ฉวยโอกาสหนี
ขณะที่ทหารผ่อนผันคนไม่มีอาการให้กลับบ้านได้-กักตัว 14 วัน
สธ.อ่อนใจหลังเป็นตัวการแพร่ระบาดโควิดพุ่งเมื่อวันที่ 3 เม.ย.63
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ
รมว.กลาโหม มีคำสั่งให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.)
ชะลอการเดินทางเข้าประเทศของคนไทยและคนต่างชาติ ตั้งแต่ 2-15 เม.ย.นี้
แต่ปรากฎว่ากระทรวงการต่างประเทศ ยังคงออกเอกสารรับรองให้คนไทยและคนต่างชาติ
เดินทางเข้าประเทศไทยตามปกติ และเมื่อเวลา 20.00 น.ที่ผ่านมา มีกลุ่มคนไทยมากกว่า
100 คนเดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ
และปฏิเสธที่จะเข้ารับการกักตัวตามมาตรการของรัฐบาล ซึ่งจัดสถานที่ไว้รอรับที่
อ.สัตหีบ และโรงแรม อีก 2 แห่ง ในกรุงเทพมหานคร
โดยอ้างว่าไม่ทราบว่ามีมาตรการดังกล่าวกลุ่มผู้โดยสารที่เดินทางมาถึงสุวรรณภูมิ
ต่างเรียกร้องให้รัฐบาลส่งตัวแทนมาชี้แจง
และมีท่าทีจะลุกลามเป็นการชุมนุมต่อต้านเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ต่อมาเจ้าหน้าที่ทหารระดับพลตรี
ได้เข้ามาควบคุมสถานการณ์ และเปิดการเจรจากับผู้เดินทาง โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที
ก่อนจะอนุญาตให้ทุกคนเดินทางกลับบ้านได้ โดยกำชับให้ทุกคนต้องกักตัวเอง 14 วัน
แม้ว่าเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขจะคัดคัดค้าน แต่ไม่สามารถควบคุมตัวผู้เดินทางทั้งหมดได้
ล่าสุดทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แจ้งว่าผู้โดยสารที่ออกไป
มีคนเป็นไข้ที่ถูกกักไว้ 3 คน
อาศัยช่วงจังหวะชุลมุนหลบหนีการกักตัวออกจากสนามบินไปด้วย
การเดินทางมาจากต่างประเทศของคนไทยและคนต่างชาติ ในระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้ติดเชื้อในประเทศไทยเพิ่มขึ้น
เนื่องจากเมื่อกลับมาแล้วไ่ม่ยอมกักตัวและเดินทางไปในสถานที่ต่างๆ
จนเป็นเหตุให้นายกรัฐมนตรีออกคำสั่งให้มีการชะลอการเดินทางเข้าประเทศไทย
ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า
แม้จะเป็นคำสั่งของนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน
ก็ยังมีหน่วยราชการ ฝ่าฝืนคำสั่ง และไม่ปฏิบัติตามอย่างไรก็ตามสถานการณ์ล่าสุด
หลังจากที่มีการละเมิดคำสั่งทั้งคำสั่งชะลอการเดินทางเข้าประเทศ
และการไม่ยอมรับการกักตัวในสถานที่รัฐกำหนดแล้ว นายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นการด่วน
ในวันพรุ่งนี้ (4 เม.ย.) ในเวลา 09.00 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น