อัปเดตสถานการณ์ ‘โควิด-19’ (Covid-19) ล่าสุด
ประจำวันที่ 2 เมษายน 2563
นายกฯ ประกาศเคอร์ฟิว ห้ามบุคคลออกนอกเคหสถานทั่วประเทศ ในช่วงเวลา 22.00-04.00 น.
มีผลพรุ่งนี้ (3 เม.ย.63) ซึ่งก่อนประกาศเคอร์ฟิว
ได้มีประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินมากว่าสัปดาห์ เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
แต่จำนวนผู้ติดเชื้อ เสียชีวิต กลับสวนทางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องล่าสุดในวันนี้จำนวนผู้ติดเชื้อก็ยังเพิ่มขึ้นจากคำแถลงของ
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน
โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)
พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 104 ราย รวมสะสม 1,875
ราย เสียชีวิตเพิ่ม 3 ศพ รวมตัวเลขผู้เสียชีวิต 15 ศพ
เป็นชายวัย 57 ปี กลับจากปากีสถาน เสียชีวิตบนรถไฟ
รายที่สองเป็นชายวัย 77 ปี มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยก่อนหน้า
และชายวัย 55 ปี ขับแท็กซี่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
ผู้ป่วยรายใหม่ที่พบยังติดเชื่อมโยงมาจากสนามมวย 1
ราย สถานบันเทิง 10 ราย เกี่ยวพันกับผู้ป่วยก่อนหน้า 41
ราย ไปงานบุญที่อินโดฯ 8 ราย และยังมีบุคลากรการแพทย์ติดเชื้อเพิ่มอีก 2
รายเพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อ
รัฐบาลจึงออกมาตรการชะลอการเดินทางเข้าประเทศของคนต่างชาติและคนไทย
ยกเว้นผู้ที่ขออนุญาตไว้ก่อนประกาศมาตรการ กรณีจำเป็นต้องเดินทางให้ติดต่อสถานทูต
หลังพบว่าสาเหตุที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น
ส่วนหนึ่งมาจากกลุ่มคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ
ที่นำเชื้อเข้าแพร่คนใกล้ชิดจนต้องถูกกักตัวกว่า 1000-3000 คน
อาทิ คนไทยไปประชุมที่อิตาลี ไปร่วมศาสนกิจที่มาเลเซีย แม้รัฐบาลใช้มาตรการ Fit
to Fly คัดกรองตั้งแต่ต้นทาง โดยต้องกักตัวเอง 14
วันก่อนเดินทาง มีใบรับรองแพทย์ยืนยันก่อนขึ้นเครื่อง ลงเครื่องมีการตรวจไข้
และกลับบ้านกักตัวเองอีก 14 วันก็ตาม“คนไทยที่ไปประชุมที่อิตาลี
ติดเชื้อ 4 คน สัมผัสติดเชื้อเพิ่มขึ้น 1 คน
ต้องกักตัวทั้งหมด 50 คน หรือที่ไปศาสนกิจที่มาเลเซีย 132 คน
ติดเชื้อ 47 คน เสียชีวิต 4 คน
ซึ่งต้องกักตัวคนไปกว่า 1,000 คน หมายถึงว่า
คนเหล่านี้ต้องอยู่ในพื้นที่จำกัด ต้องเสียกำลังคนไปอีกพันกว่าคน
การที่คนต้องถูกกักตัวกว่า 1000-3000 คน
เขาจะต้องเปลี่ยนชีวิตประจำวันทั้งหมดเป็นความทุกข์ทั้งทางกายและทางใจ ทั้งๆ
ที่ไม่รู้จะป่วยหรือไม่ อย่าให้คนอื่นทุกข์เพราะท่านอีกเลย” โฆษก ศบค. กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น